พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
ตำนาน ตะกรุดลูก...
ตำนาน ตะกรุดลูกปืนด้าน หลวงพ่อขำ ลานกระบือ (ดอกใหญ่ๆ 3 นิ้ว 2 หุน)
พระอุปัชฌาย์ขำ อินทปัญญา หรือหลวงพ่อขำ ลานกระบือ ท่านเป็นชาวปรักไม้ดำ ถือกำเนิด เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๐๗ โยมบิดาชื่อช้าง โยมมารดาชื่อนิล มีพี่น้องสามคน เป็นชายทั้งหมด พี่คนโตชื่อมั่น คนที่สองคือหลวงพ่อขำ คนที่สามชื่ออิน ทั้งสามคนไม่มีบุตร ชีวิตของหลวงพ่อขำในวัยเด็กลำบากมาก ท่านกำพร้าบิดา มารดามีสามีใหม่ สามีใหม่ของมารดาเป็นคนไม่เอาถ่านเกียจคร้าน ขี้เหล้าเมายา มักจะหาเรื่องมารดาเสมอ วันหนึ่งสามีใหม่เมาสุราแล้วหาเรื่องตีมารดา ท่านได้ช่วยเหลือมารดาและทำร้ายสามีใหม่จนได้รับบาดเจ็บ หลวงพ่อขำท่านจึงได้เห็นสัจธรรมข้อหนึ่งคือทุกขเวทนาของการดำรงชีวิตในสถานะฆราวาส ท่านจึงเข้าอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดวังตะขบ จังหวัดพิจิตร โดยมีเจ้าอาวาสวัดวังตะขบเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"อินทปัญญา" เมื่อพระภิกษุขำได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคันถธุระ ตลอดจนวิชาอาคมต่างๆอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่ท่านโปรดปรานมาก ดังนั้นปัจจัยที่ได้จากการถวายของญาติโยมท่านจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจากสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์ที่เรืองเวทย์ ท่านจะต้องเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ และที่จังหวัดพิจิตร ท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน บางคลาน เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองพิจิตรในขณะนั้น หลวงพ่อขำท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้ร่วมเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเงิน ในเวลานั้นศิษย์ร่วมสำนักกับท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้แก่ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อพิธท่านมีศักดิ์เป็นหลานหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ว่ามีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อขำก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ แต่ความนิยมอาจจะน้อยกว่าตะกรุดของหลวงพ่อพิธ เพราะจำนวนการสร้างตะกรุดของหลวงพ่อขำมีจำนวนน้อยมาก จึงเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปรู้จักน้อย ตะกรุดของหลวงพ่อขำที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักในบรรดาศิษย์ของท่านได้แก่ตะกรุดโทน ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และตะกรุดลูกด้านโดยเอาลูกปืนพระรามหกที่ยิงไม่ออกมาลงอักขระ ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก (ดีทางมหาอุด เรียกได้ว่าเป็นเลิศยิ่งนัก)
หลวงพ่อขำ อินทปัญญาเมื่อท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ย และต่อมาก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เตี้ย ท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ สร้างพระเจดีย์สามองค์ด้านหน้าพระอุโบสถ สร้างพระวิหารด้านข้างซ้ายพระอุโบสถ และปั้นรูปจำลองหลวงพ่อขำด้วยปูน(แต่ช่างปั้นไม่สวย)อยู่ด้านหน้าพระวิหาร สร้างหอระฆัง รอยพระพุทธบาทจำลอง และศาลาการเปรียญ
นอกจากนี้หลวงพ่อขำ ยังได้ศึกษาด้านสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ท่านทำยาเม็ด ยาหม้อ รวมทั้งการอาบน้ำมนต์ อันเป็นการรักษาทางจิตใจอีกทางหนึ่ง นับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย และวัดของท่านก็คือโรงพยาบาลแพทย์แผนโบราณนั้นเอง
หลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ วัดจะมีประชาชน และข้าราชการทหาร ตำรวจจากจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร ขี่ม้ามาขอบูชาเครื่องรางของขลังอย่างไม่ขาดสาย จึงทำให้ท่านมีปัจจัยมากพอที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดดังได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ยเป็นจำนวนมาก เพิ่อฝากตัวเป็นศิษย์ ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมจากท่าน วัดโพธิ์เตี้ยในสมัยนั้นจึงรุ่งเรืิองมาก ชื่อเสียงของหลวงพ่อขำก็โด่งดังมาก มีประชาชนเคารพนับถือท่านมาก ยิ่งหลวงพ่อขำมีชื่อเสียงมากเพียงใด ย่อมนำไปสู่ความอิจฉาริษยาของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ในที่สุดก็มีการใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อขำ ว่าท่านประพฤติตนไม่เหมาะสม อวดอุตริผิดมนุษย์ ซึ่งความดังกล่าวก็นำไปสู่การร้องเรียนที่เป็นเท็จต่อพระครูวิเชียรโมลี(ปลั่ง) ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีคณานุรักษ์รั้งตำแหน่ง รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร
ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลี(ปลั่ง)ก็ได้ขี่ม้ามาตรวจสอบความประพฤติของหลวงพ่อขำตามคำร้องเรียนที่วัดโพธิ์เตี้ย เมื่อท่านเจ้าคุณได้เดินตรวจดูบริเวณวัดโพธิ์เตี้ย ก็เห็นความสะอาดและความมีระเบียบของวัด และเมื่อท่านเจ้าคุณได้พบและสนทนากับหลวงพ่อขำ ก็ทราบได้ว่าคำร้องเรียนนั้นเป็นเท็จ และยังทราบว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและมีความรู้ในวิชาอาคมขั้นอาจารย์ ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ และขอเรียนวิชาลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และในเวลาต่อมาท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีก็ได้แต่งตั้งหลวงพ่อขำเป็นพระอุปัชฌาย์ จากเหตุผลที่กล่าวมา จึงเชื่อได้ว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งที่สุดและอาวุโสที่สุดของจังหวัดกำแพงเพชรที่เคยมีการบันทึกมา
ผู้เข้าชม
3319 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
T-Rex
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
0899692330
ไอดีไลน์
โทรคุยได้เลย
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 733-2-31436-4
เบี้ยแก้ หลวงพ่อไพล วัดบางแคกล
รูปหล่อ โบราณ พ่อท่านคง วัดธรร
เนื้ออย่างนี้ทำไม ไม่เป็นพระปิ
ตะกรุดสะพานสูงยันต์ตรีฯ เนื้อเ
เบี้ยเก่า อาจารย์กุ่ม วัดฝาง
เหรียญหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อทบปลุ
ตะกรุดสาริกา คลองด่าน น่ารักน่
อะ พยัคฆา มาจาก อุบลฯ
ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงปู่กลิ่น
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
เทพจิระ
termboon
น้ำตาลแดง
ด้วง เกิดผล
chaokoh
Kshop
jocho
พีพีพระเครื่อง
นรินทร์นำเเสง
chaithawat
แมวดำ99
BAINGERN
boonyakiat
chathanumaan
TotoTato
ทองธนบุรี
KhunNineBanKham
fuchoo18
Colanoii14
ponsrithong2
Pumnee
เปียโน
กระต่วย
สายน้ำอุ่น
อ้วนโนนสูง
Kumpang
tatingtating
ปลั๊ก ปทุมธานี
โกหมู
stp253
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1273 คน
เพิ่มข้อมูล
ตำนาน ตะกรุดลูกปืนด้าน หลวงพ่อขำ ลานกระบือ (ดอกใหญ่ๆ 3 นิ้ว 2 หุน)
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
ตำนาน ตะกรุดลูกปืนด้าน หลวงพ่อขำ ลานกระบือ (ดอกใหญ่ๆ 3 นิ้ว 2 หุน)
รายละเอียด
พระอุปัชฌาย์ขำ อินทปัญญา หรือหลวงพ่อขำ ลานกระบือ ท่านเป็นชาวปรักไม้ดำ ถือกำเนิด เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๐๗ โยมบิดาชื่อช้าง โยมมารดาชื่อนิล มีพี่น้องสามคน เป็นชายทั้งหมด พี่คนโตชื่อมั่น คนที่สองคือหลวงพ่อขำ คนที่สามชื่ออิน ทั้งสามคนไม่มีบุตร ชีวิตของหลวงพ่อขำในวัยเด็กลำบากมาก ท่านกำพร้าบิดา มารดามีสามีใหม่ สามีใหม่ของมารดาเป็นคนไม่เอาถ่านเกียจคร้าน ขี้เหล้าเมายา มักจะหาเรื่องมารดาเสมอ วันหนึ่งสามีใหม่เมาสุราแล้วหาเรื่องตีมารดา ท่านได้ช่วยเหลือมารดาและทำร้ายสามีใหม่จนได้รับบาดเจ็บ หลวงพ่อขำท่านจึงได้เห็นสัจธรรมข้อหนึ่งคือทุกขเวทนาของการดำรงชีวิตในสถานะฆราวาส ท่านจึงเข้าอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดวังตะขบ จังหวัดพิจิตร โดยมีเจ้าอาวาสวัดวังตะขบเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา"อินทปัญญา" เมื่อพระภิกษุขำได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคันถธุระ ตลอดจนวิชาอาคมต่างๆอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่ท่านโปรดปรานมาก ดังนั้นปัจจัยที่ได้จากการถวายของญาติโยมท่านจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาวิชาอาคมจากสำนักอาจารย์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์ที่เรืองเวทย์ ท่านจะต้องเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ และที่จังหวัดพิจิตร ท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน บางคลาน เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองพิจิตรในขณะนั้น หลวงพ่อขำท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้ร่วมเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเงิน ในเวลานั้นศิษย์ร่วมสำนักกับท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้แก่ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อพิธท่านมีศักดิ์เป็นหลานหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ว่ามีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อขำก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ แต่ความนิยมอาจจะน้อยกว่าตะกรุดของหลวงพ่อพิธ เพราะจำนวนการสร้างตะกรุดของหลวงพ่อขำมีจำนวนน้อยมาก จึงเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปรู้จักน้อย ตะกรุดของหลวงพ่อขำที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักในบรรดาศิษย์ของท่านได้แก่ตะกรุดโทน ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และตะกรุดลูกด้านโดยเอาลูกปืนพระรามหกที่ยิงไม่ออกมาลงอักขระ ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก (ดีทางมหาอุด เรียกได้ว่าเป็นเลิศยิ่งนัก)
หลวงพ่อขำ อินทปัญญาเมื่อท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ย และต่อมาก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เตี้ย ท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ สร้างพระเจดีย์สามองค์ด้านหน้าพระอุโบสถ สร้างพระวิหารด้านข้างซ้ายพระอุโบสถ และปั้นรูปจำลองหลวงพ่อขำด้วยปูน(แต่ช่างปั้นไม่สวย)อยู่ด้านหน้าพระวิหาร สร้างหอระฆัง รอยพระพุทธบาทจำลอง และศาลาการเปรียญ
นอกจากนี้หลวงพ่อขำ ยังได้ศึกษาด้านสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ท่านทำยาเม็ด ยาหม้อ รวมทั้งการอาบน้ำมนต์ อันเป็นการรักษาทางจิตใจอีกทางหนึ่ง นับได้ว่าท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย และวัดของท่านก็คือโรงพยาบาลแพทย์แผนโบราณนั้นเอง
หลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ วัดจะมีประชาชน และข้าราชการทหาร ตำรวจจากจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร ขี่ม้ามาขอบูชาเครื่องรางของขลังอย่างไม่ขาดสาย จึงทำให้ท่านมีปัจจัยมากพอที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดดังได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ยเป็นจำนวนมาก เพิ่อฝากตัวเป็นศิษย์ ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมจากท่าน วัดโพธิ์เตี้ยในสมัยนั้นจึงรุ่งเรืิองมาก ชื่อเสียงของหลวงพ่อขำก็โด่งดังมาก มีประชาชนเคารพนับถือท่านมาก ยิ่งหลวงพ่อขำมีชื่อเสียงมากเพียงใด ย่อมนำไปสู่ความอิจฉาริษยาของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ในที่สุดก็มีการใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อขำ ว่าท่านประพฤติตนไม่เหมาะสม อวดอุตริผิดมนุษย์ ซึ่งความดังกล่าวก็นำไปสู่การร้องเรียนที่เป็นเท็จต่อพระครูวิเชียรโมลี(ปลั่ง) ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีคณานุรักษ์รั้งตำแหน่ง รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร
ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลี(ปลั่ง)ก็ได้ขี่ม้ามาตรวจสอบความประพฤติของหลวงพ่อขำตามคำร้องเรียนที่วัดโพธิ์เตี้ย เมื่อท่านเจ้าคุณได้เดินตรวจดูบริเวณวัดโพธิ์เตี้ย ก็เห็นความสะอาดและความมีระเบียบของวัด และเมื่อท่านเจ้าคุณได้พบและสนทนากับหลวงพ่อขำ ก็ทราบได้ว่าคำร้องเรียนนั้นเป็นเท็จ และยังทราบว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและมีความรู้ในวิชาอาคมขั้นอาจารย์ ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ และขอเรียนวิชาลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และในเวลาต่อมาท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีก็ได้แต่งตั้งหลวงพ่อขำเป็นพระอุปัชฌาย์ จากเหตุผลที่กล่าวมา จึงเชื่อได้ว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งที่สุดและอาวุโสที่สุดของจังหวัดกำแพงเพชรที่เคยมีการบันทึกมา
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
3663 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
T-Rex
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0899692330
ID LINE
โทรคุยได้เลย
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 733-2-31436-4
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี